อีกเช้าวันหนึ่งที่สดชื่น.. อีกเช้าวันหนึ่งที่เป็นดั่งพลังให้กับฉัน และคงเป็นอีกเช้าวันหนึ่งซึ่งชีวิตฉันยังคงดำรงอยู่ได้.. โดยไม่มีเขา..
เขาจากเราไปนานมากแล้ว ไม่ทิ้งร่องรอยหรือเหตุผลใดๆ ไว้ให้ระลึกถึง ฉันและครอบครัวได้แต่ฉงนกับเรื่องราวการจากไป เขาบอกแค่มีความจำเป็นบางอย่างที่จะต้องเข้าเมือง พกพาเพียงสัมภาระบางส่วน กับรถเก๋งคันงาม.. แล้วเราก็ไม่ได้ยินข่าวคราวเขาเลย ไม่มีแม้จดหมายที่จะมาบอกกล่าวให้เราพออุ่นใจ เราเพียงหมั่นสวดมนต์และระลึกถึงเขาบ้าง หรือบางครั้งฉันเองก็พยายามหักห้ามใจเสีย..
เขาเคยบอกชอบที่นี่ อยากอยู่ใช้ชีวิตเป็นคนที่นี่ หลังจากพ่อและแม่เห็นร่วมที่จะให้เราทั้งสองได้ครองเรือนกัน โดยมีญาติและเพื่อนบ้านหลายคนร่วมเป็นพยาน พวกเขาเห็นดีเห็นงามและพอใจในความเหมาะสมของเรา.. เราใช้ชีวิตร่วมกัน ทำมาหากิน ประสบสุขและทุกข์ร่วมกันมาหลายปี จนฉันให้กำเนิดลูกชายคนหัวปี.. เขาพอใจทุกๆ อย่างที่นี่ อยากย้ายมาดำรงชีวิตร่วมกับเราอย่างถาวร..แต่แล้วเขากลับหายไป.. หายไปพร้อมสัญญามากมายที่ให้ไว้กับคนที่นี่ หายไปอย่างไร้ร่องรอยใดๆ..
หลายปีก่อน.. เราเจอกันที่นี่ เขาเข้ามาพร้อมเพื่อนร่วมงานอีกสามสี่คน มาตกลงว่าจ้างพ่อ ตัดไม้ในป่าโกงกางเข้าเตาถ่านส่งขายปีนัง สมัยนั้นผืนป่าบ้านเรายังสมบูรณ์ พันธุ์ไม้มีหลากหลาย ขนาดลำต้นโกงกางโตและสูง ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้ พอรัฐสั่งปิดสัมปทานป่า เราก็ไม่เห็นร่องรอยของไม้ใหญ่อีกเลย เห็นเพียงหลุมถ่าน ซากไม้ หัวตอและไม้ตะบูนเล็กๆ ที่ขึ้นแซมโกงกางขนาดลำแขน..
เราเคยชื่นชมเขาว่าเป็นคนขยัน มีอัธยาศัยที่ดีต่อคนรอบข้าง บุคลิกคนเมืองที่ไม่ถือตัว เข้ากับทุกๆ คนในหมู่บ้านได้ และพยายามที่จะเรียนรู้วิถีการดำรงชีวิตอย่างเรียบง่าย เขามีความตั้งใจสูงที่จะย้ายตัวเองเข้ามาอยู่ที่นี่ หลังจากที่ได้ร่วมงานกับพ่อ และผูกพันกับฉัน เราต้อนรับเขาเข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวอย่างว่าง่าย พ่อและแม่เห็นร่วมและยินดีอย่างยิ่ง เขาตัดสินใจเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม แต่งงานอย่างเรียบง่ายตามธรรมเนียมมุสลิม และดำรงชีวิตร่วมกัน..
จนเมื่อทุกอย่างดำเนินมาถึงจุดเปลี่ยน.. รัฐสั่งปิดป่าสัมปทาน..หลังผืนป่าโกงกางแถบชายฝั่งทะเลเกือบราบเป็นหน้ากลอง หลายนายทุนเลิกล้มกิจการเรือขนส่งถ่าน ชาวบ้านหลายคนซึ่งเคยเปลี่ยนอาชีพจากการออกทะเลมาตัดไม้เผาถ่านก็พลอยตกงาน ป่าทั้งผืนหลงเหลือเพียงร่องรอยของการถูกบุกรุก และตอไม้ บนเขตดินดอนในป่าเห็นเพียงหลุมถ่านร้าง ฝูงปลา ปูและสัตว์น้ำหลายชนิดเริ่มหายาก ชาวบ้านหลายๆ คนว่างงาน..บางคนเผชิญปัญหาเรื่องการทำกิน หลายๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลัน..
รวมทั้งจิตใจของเขา.. ซึ่งฉันเคยรู้จักและผูกพันในฐานะของผู้ใจบุญและคนรัก.. เขากระวนกระวาย และหงุดหงิดง่าย จนสร้างปัญหาการอยู่ร่วมกันในครอบครัวเราเสมอ เขาเริ่มมีปัญหากับญาติของฉัน กับแม่และพ่อของฉัน จนทุกๆ คนเริ่มที่จะหน่ายในตัวเขา..
หลังจากนั้นไม่นาน เขาเลยจากไป.. ปล่อยครอบครัวของฉันเผชิญกับหนทางชีวิตใหม่อย่างเดียวดาย พ่อหวนกลับอาชีพออกทะเลอีกครั้ง แต่ในฐานะของลูกเรือ ไม่ใช่เจ้าของเรืออีกแล้ว หลังตัดสินใจขายเรือไปด้วยความหวังใหม่ซึ่งเคยแขวนไว้กับอาชีพเผาถ่าน แม่เข้าเป็นลูกจ้างในฟาร์มกุ้งที่เกิดขึ้นมากมายบนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นเรือกสวนไร่นาในหมู่บ้าน ชาวบ้านหลายคนทยอยพาตัวเองย้ายถิ่นฐานไปค้นหาหนทางทำมาหากินยังแหล่งอื่นๆ..
ส่วนฉัน..หญิงม่ายกับลูกชายคนแรก ดำรงชีวิตอย่างเรียบง่ายตามประสา อยู่กินร่วมกับพ่อและแม่โดยรับหน้าที่เป็นแม่บ้าน ทั้งดูแลลูก และพยายามที่จะไม่คิดถึงเขา..
แต่ก็คอยแต่จะแพ้จิตใจตัวเองเสียทุกครา ฉันลืมเขาไม่ลง ทุกๆ วันมันมีอะไรที่เข้ามา แล้วทำให้ต้องระลึกถึง แม้ในยามหลับนอน บางคราฉันฝันถึงเขา ฝันเห็นพ่อของลูกและเสียงหัวเราะจากการหยอกล้อตามประสา พ่อและลูกชาย.. ฉันพยายามอดกลั้นแล้วทำจิตใจตัวเองให้เข้มแข็ง ให้ลูกชายได้เห็นถึงความอดทน ให้เขาได้ยึดไว้เป็นแบบอย่าง.. แต่ก็ได้เพียงนึกคิด.. ดวงใจฉันมันอ่อนแอเกินไป..
ฉันรู้สึกตัวจากฝันร้ายทุกๆ ครั้ง ก่อนดวงตะวันจะโผล่พ้นจากขอบฟ้าหลังผืนป่า อาบน้ำและละหมาดซุบฮิ์ ก่อนพาตัวเองมานั่งรำลึกถึงพระผู้เป็นเจ้าตรงระเบียงหลังบ้าน ผืนน้ำในลำคลอง ณ ช่วงเวลานั้นนิ่งงันและสงบ ผิวน้ำฉายภาพสะท้อนจากผืนฟ้าเห็นเหมือนแผ่นกระจกบานใหญ่ ผืนป่าสงบและมีลมพัดโชยบางๆ เสียงปลาในคลองดำผุดอยู่เบาๆ..
ฟ้าฝั่งตะวันออกฉายแสงสีส้มทาบทาความมัวหม่น.. ม่านเมฆสีควันบุหรี่ถูกลำแสงสาดจนแลเห็นเป็นสีชมพู ก่อนพลังแสงยามอรุโณทัยจะสาดส่องขับไล่ความมืดจนหายไปเกือบทั้งฟ้า..
ฉันอุ่นใจและรู้สึกมีพลังทุกครั้ง..กับแสงแรกของวัน
เรือนศิลป์กะรักษ์, พฤษภาคม 2554
เยี่ยมมมมมมมมมมมมม
ตอบลบชอบมากๆ ลื่นไหล กลมกลืน ให้ความรู้สึกมีความหวังกับชีวิตดีจัง
แม้ทุกข์แต่มีความหวัง ชอบๆ