วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ทลายกำแพงระหว่างเรา




จากใจคนพันธุ์ MaD 3/2008: ทลายกำแพงระหว่างเรา

ท่ามกลางกระแสความโกลาหล ความสับสนวุ่นวาย และความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งรูปธรรมและนามธรรมในสังคมไทยและสังคมโลก ขณะเดียวกันกระบวนการการรับรู้ของอนุชนรุ่นต่อไปก็ได้ดำเนินการสู่ความพร้อมต่อวัฎจักร บ่วง หรือความซ้ำซากที่จะเกิดขึ้นเช่นเคยในภายภาคหน้า

สิ่งนี้อาจดูเป็นความละเอียดอ่อนบางอย่างที่เราต่างมองข้าม หรือลืมที่จะนึกถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อไป เพราะต่างฝ่ายต่างก็มุ่งสู่เป้าหมายของตัวเอง พรรคพวก หรือเหล่าผู้ที่เลื่อมใสในความคิดเห็นตรงกัน เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ แม้ผลที่ตามมาคือประเทศหรือผืนแผ่นดินต้องตกอยู่ในสภาพเละเทะก็ตาม

สิ่งที่เราส่วนใหญ่ต่างให้ความสนใจเป็นพิเศษกับประวัติศาสตร์ในอดีต ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของชัยชนะของแต่ละกลุ่มชน ตำนานวีรบุรุษ หรือเหล่าตำราพิชัยสงครามต่างๆ การต่อสู้ของมนุษย์จึงดูเหมือนไม่มีวันจบสิ้น ในเมื่อความหลากหลายของมนุษย์ยังเป็นปัญหาในการดำรงชีวิตร่วมกันในสังคม เพราะถึงกระนั้นก็จะต้องมีการต่อสู้เพื่อกอบกู้หรือเรียกร้องอีกเช่นเคย จึงกลายเป็นการแบ่งแยกที่ยากจะจบสิ้น

เป็นเรื่องยากที่จะสร้างสันติสุขและภราดรภาพอย่างยั่งยืนในเมื่อการรณรงค์ หรือการลุกขึ้นสู้อย่างจริงจังเพื่อความสันติถูกนำมาใช้เมื่อถึงคราจำเป็นเท่านั้น หรือถึงแม้ว่าจะมีการยุติความรุนแรงลงบ้างแต่ก็ยังมีเชื้อไฟบางส่วนที่ยังรอคอยการมอดไหม้ลุกลามต่อไปไม่จบสิ้น สันติภาพจึงกลายเป็นสิ่งชั่วคราว ไม่ยั่งยืน ตราบใดที่ทุกๆ ฝ่ายยังขาดสติ และความซื่อสัตย์ในบทบาทหน้าที่ของตัวเองในสังคม
ท่ามกลางกระแสความโกลาหล สับสนวุ่นวาย และความรุนแรงต่างๆ ข้างต้น สิ่งเล็ก สิ่งน้อยๆ อย่างความเกลียดชัง ความระแวง การแบ่งพรรคแบ่งพวก และอีกหลายๆ อย่างกำลังหลอมรวมกันอย่างมั่นคงเป็นกำแพงขนาดมหึมาขวางกั้นมนุษย์ด้วยกัน ซ้ำเติมพรมแดนเดิมที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติของมนุษย์ ทำให้อำนาจที่นับวันยิ่งทวีความมั่นคงและถาวรนั้นหาใช่ความสันติสุขไม่ แต่กลายเป็นพรมแดนหรือกำแพงระหว่างมนุษย์ด้วยกันที่แข็งแกร่ง ทนทาน และยากที่จะทำลายลงได้ กลายเป็นต้นตอของอีกหลายๆ การต่อสู้ที่นำไปสู่ความรุนแรงต่อๆ ไป สิ่งที่ยากกว่าการพยายามยุติสงครามหรือความรุนแรงในภายภาคหน้า คือการทำลายกำแพงหรือพรมแดนที่กีดกั้นมนุษย์ด้วยกันเอง กำแพงซึ่งกีดกั้นการไม่ยอมรับซึ่งกันและกัน กำแพงซึ่งเกิดจากความเกลียดชัง กำแพงที่เกิดจากการต้องการแบ่งชนชั้น หรือแบ่งแยกตามลักษณะหน้าตาและรูปร่าง กำแพงที่เกิดจากการยึดมั่นในความเชื่อและเลื่อมใสในภูมิปัญญาของฝ่ายตัวเอง และไม่ยอมรับในความเชื่อของผู้อื่น กำแพงที่เกิดจากความโกรธ อาฆาตแค้น ความอิจฉาริษยา ความตระหนี่ และอีกมากมาย กำลังก่อตัวร่วมกันเป็นปึกแผ่น และมั่นคงยิ่งใหญ่และถาวร

การยืนหยัดต่อสู้เพื่อการอยู่ร่วมกัน เรียนรู้ร่วมกัน และทำงานร่วมกันได้อย่างสันติสุขในสังคม จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อไปตราบนานเท่านาน เพื่อร่วมกันสร้างกระแสใหม่ที่เป็นพลังค้ำจุนความดีงามในสังคม ลดกำแพงหรือช่องว่างระหว่างมนุษย์ลง เพื่อให้สังคมที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ลักษณะกายภาพ ภาษา หรือแม้แต่ความเชื่อ สามารถดำเนินชีวิตร่วมกันอย่างสันติถาวร (อาจดูเป็นการเพ้อฝัน ที่จะสามารถสร้างสังคมที่ดีและสงบสุขร่วมกันอย่างถาวร แต่หากกำแพงดั่งที่ว่าถูกทำลายลง ในจิตใจของมนุษย์ก็จะเหลือแต่ความดีงาม ซึ่งความดีงามคือจุดเริ่มต้นของสันติสุขอย่างถาวร)

จนกว่าเวลาจะเหมาะสม
ก๊วง ชบแดง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น