
จากใจคนพันธุ์ MaD 2/2009 (Looking without Glasses)
วัยหนุ่มสาวมันสั้นนัก... เมื่อเทียบกับวันเวลาอันยาวนานที่ชีวิตของคนเราต้องผูกพันกับภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบและความว้าเหว่ในวัยถัดไป หลายคนผ่านวัยเด็ก (วัยแห่งการเรียนรู้) เพื่อมุ่งสู่วัยผู้ใหญ่อย่างรีบเร่ง หรือกระทันหัน ด้วยบางอย่างที่คอยผลักดัน หรือการยินยอมพาตัวเองข้ามผ่านวัยแห่งการแสวงหาอย่างไม่ทันยี่หระต่อสิ่งใด...
Looking without Glasses (การมองโลกโดยไม่ต้องผ่านเลนส์ใดๆ) อาจหมายถึงการมองหรือการสัมผัสคุณค่าของชีวิตคนเราโดยไม่มีกรอบหรือกฎเกณฑ์ คอยขวางกั้นคอยกำหนดมาตรฐานผลลัพธ์ของการมองหรือการดำเนินชีวิตของเรา.... เราอาจเห็นหรือสัมผัสคุณค่าที่ล้ำลึกกว่า ชัดเจนกว่า ด้วยธรรมชาติหรือสัจธรรมที่เป็นความจริงของโลกและชีวิต...
เนิ่นนานมาแล้ว ที่วิทยาการและนวัตกรรมใหม่ๆ บนโลกใบนี้ได้พัฒนามาจนสามารถเป็นกรอบหรือขอบเขตให้มนุษย์ใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและประกันความมั่นคงให้กับชีวิต... ทางเลือกเดียวที่หลายคนอ้าแขนรับมาใช้ในการดำเนินชีวิต จึงเป็นกฎเกณฑ์เดียวกันซึ่งมีแบบแผนตายตัว...แข็งกระด้าง...
Looking without Glasses (การมองโลกโดยไม่ต้องผ่านเลนส์ใดๆ) ไม่ได้เป็นการมองโลกแบบใหม่ แต่คือการมองโลกอย่างที่ธรรมชาติกำหนดให้กับคนเรา.. ได้เห็นและเชื่ออย่างที่ตาเห็นและใจรู้สึก...ว่าโลกและชีวิตมันมากกว่านั้น..
เยี่ยงเดียวกับสารทั้งหมดในวาระนี้ อยากให้ผู้อ่านลองถอดแว่นหรือตั้งใจอ่านโดยไร้ข้อกังขาในเรื่องของภาษา ความงามหรือใดๆ ทั้งสิ้นดู เผื่อบางที่เสียงบริสุทธิ์ที่มาจากคนหนุ่มสาวทั้งหลายที่ได้มาร่วมแรงร่วมใจปั้นวารสารฉบับนี้ขึ้นมาอาจบอกอะไรเราได้บ้างไม่มากก็น้อย....
ท้ายของวาระนี้ ผมขอส่งแรงใจแด่คนหนุ่มสาวทุกคนผู้รักการแสวงหาคุณค่าแห่งชีวิต...ขอให้เดินตามความเชื่อของเราเอง... ชีวิตและโลกมันมากกว่านั้น...
โชคดีและไมตรีจิต
อินทรธนู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น